รัชกาลที่ ๑ มีการสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดารามและวัดสุทัศน์เทพวราราม และให้บูรณะปฏิสังขรณ์สิ่งก่อสร้างในวัดอื่นๆซึ่งมีมาก่อนสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เช่น สร้างพระปรางค์ที่วัดระฆังกับพระเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ ณ วัดพระเชตุพนฯและเจดีย์ทองในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ทรงดำริเริ่มสร้างพระปรางค์วัดอรุณฯ แต่ค้างอยู่ มาสำเร็จในสมัยรัชกาลที่ ๓
หรับโบสถ์วิหารในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็มักสร้างเลียนแบบกรุงศรีอยุธยา เป็นต้นว่า พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามก็ยังคงมีฐานอ่อนโค้งอยู่ ฐานอ่อนโค้งนี้ในสมัยต่อมาก็หายไป ในสมัยรัชกาลที่ ๓ เกิดนิยมแบบอย่างศิลปะจีนวัดที่สร้างในรัชกาลนี้บางแห่ง เป็นต้นว่า วัดราชโอรส วัดเทพธิดา ฯลฯ โบสถ์วิหารก็ยักย้ายสร้างคล้ายแบบจีนคือยกเอาช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ออกเสีย หน้าบันหรือหน้าจั่วแทนที่จะเป็นไม้สลักอย่างแต่ก่อนก็เปลี่ยนเป็นก่ออิฐถือปูนและใช้ลวดลายดินเผาเคลือบประดับ เสาก็มักเป็นสี่เหลี่ยมทึบใหญ่ ไม่มีบัวหัวเสาในรัชกาลนี้ได้ทรงสร้างวัดขึ้นเป็นจำนวนมาก
รัชกาลที่ ๔ นิยมสร้างพระสถูปกลมทรงลังกา เหตุด้วยเมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงผนวช ได้เสด็จขึ้นไปธุดงค์ถึงเมืองเหนือ ทรงตรวจค้นและศึกษาเรื่องพุทธเจดีย์ครั้งสมัยสุโขทัย ได้ทรงจำลองแบบพระสถูปราชวงศ์พระร่วงลงมาสร้างในกรุงเทพฯ ดูเหมือนได้สร้างพระสถูปที่วัดบวรนิเวศก่อนที่อื่น ในสมัยรัชกาลที่ ๔ นี้ยังทรงนิยมจำลองแบบพระเจดีย์สมัยอยุธยามาสร้างด้วย เป็นต้นว่าพระเจดีย์ไม้สิบสององค์ที่ ๔ ในวัดพระเชตุพนฯ
ก็ทรงถ่ายแบบมาแต่พระเจดีย์ศรีสุริโยทัยในพระนครศรีอยุธยาและพระศรีรัตนเจดีย์ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามก็ถ่ายแบบมาแต่พระมหาสถูปในวัดพระศรีสรรเพชญ พระนครศรีอยุธยา
พระสถูปที่สร้างสวมพระปฐมเจดีย์องค์เดิมก็เป็นของที่คิดแบบสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ นี้เช่นเดียวกัน
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ทรงสร้างวัดไม่มาก แต่บางแห่ง เป็นต้นว่าวัดราชบพิธได้หันกลับไปทำตามคติแบบเก่า คือยึดพระเจดีย์เป็นประธานของวัดอย่างแต่ก่อน สร้างพระระเบียงและวิหารทิศล้อมรอบพระเจดีย์ ภายนอกประดับประดากระเบื้องหลากสี ตกแต่งภายในโบสถ์วิหารเป็นรูปแบบตะวันตก วัดนิเวศธรรมประวัติ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างเลียนแบบศิลปะโกธิคในทวีปยุโรป ต่อมาเมื่อทรงสร้างวัดเบญจมบพิตรด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ก็นับว่าเป็นการผสมกันระหว่างวัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตก
อาคารบ้านเรือนสมัยรัตนโกสินทร์
สำหรับอาคารบ้านเรือนในสมัยรัตนโกสินทร์ บ้านไม้แบบไทยแท้ก็ยังคงอยู่ต่อไป ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ ลงมา นิยมก่อสร้างอาคารด้วยอิฐ เป็นแบบไทยบ้างแบบจีนบ้าง และตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔ ลงมา จึงนิยมสร้างเลียนแบบฝรั่ง ในสมัยนี้มีการก่อสร้างพระที่นั่งแบบไทยแท้ที่สวยงามอย่างยิ่งขึ้นองค์หนึ่ง คือพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทในพระบรมมหาราชวังในสมัยรัชกาลที่ ๕ นิยมสร้างอาคารแบบฝรั่งกันมาก พระที่นั่งจักรีมหาปราสาทนั้น เดิมจะสร้างเป็นแบบฝรั่งทั้งองค์ แต่ต่อมาสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ได้กราบบังคมทูลขอให้เปลี่ยนเครื่องบนเป็นยอดปราสาท จึงคงรูปดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ยังมีพระที่นั่งอนันตสมาคม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น